จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2560

อาหารคลีน

ช่วงนี้ กระแสของการรับประทาน อาหารคลีน จะไม่ได้นิยมกระฉ่อนเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ก็นับว่าเป็นเทรนด์สำคัญสำหรับคนที่รักสุภาพ อยากดูแลรูปร่างให้ดูดี เพราะการออกกำลังกายอาจไม่ใช่ทางออกเดียวที่จะทำให้เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ประสบความสำเร็จ แต่อาหารก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะออกกำลังกายอย่างหนักแต่หากไม่รับประทานอย่างระมัดระวังก็จะต้องกลับไปอ้วนเหมือนเดิม วันนี้เราก็มีเมนูอาหารคลีนที่น่าสนใจรสชาติอร่อยมาฝากให้ไปลองทำกัน ลองหาชิมดู เอาไว้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้การควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย เมื่อมีกิจวัตรที่ดี การรับประทานที่ดี แน่นอนว่าสุขภาพที่ดีจะต้องตามมาไม่ช้าก็เร็ว
การลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร สิ่งที่ต้องลดมากที่สุดคือ แป้ง และอีกอย่าง ที่หลายๆ คนคิดว่าต้องลดด้วยเหรอ มีผลเหรอ แต่หารู้ไม่ว่า นี่คือสิ่งสำคัญไม่แพ้แป้งเลยทีเดียว สิ่งนั้นก็คือ โซเดียม ซึ่งโซเดียมนี้ อยู่ในอาหารที่เป็นเครื่องปรุงทั้งหลาย เช่น เกลือ น้ำปลาร้า กะปิ น้ำปลา ฯลฯ ฉะนั้น การลดน้ำหนักที่ดี ต้องลดแป้ง และโซเดียม ควบคู่กันไป

เมนูอาหารคลีน

พร้อมแล้วกับ เมนูอาหารคลีนง่ายๆ ทำเอง เมนูเพื่อการควบคุมน้ำหนัก 15 อย่าง ดูสิ ! อาหารแต่ละเมนู คิดเอง ปรุงเองเลยนะ ชื่อเมนูก็เรียกไปตามวัตถุดิบที่ทำ ลองไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
อาหารคลีน ขนมปังทูน่า

1. ขนมปังทูน่า

เป็นเมนูประยุกต์ที่มีความเก๋ไก๋ แต่ไม่หายไปซึ่งรสชาติที่ดี มีความมันของไข่และทูน่าเข้ากันอย่างมาก เสิร์ฟพร้อมกับเสาวรสสด 1 ลูก ส่วนผสมก็ประกอบไปด้วย ไข่แดง 1 ฟอง ไข่ขาว 2 ฟอง (ว่ากันว่า เราสามารถรับประทานไข่ขาวได้ถึงวันละ 5 ฟองเชียวนะ แต่เน้นว่าไข่ขาวอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนไข่แดงอย่างมากที่สุดวันละ 1 ฟองก็เพียงพอแล้ว) ต่อด้วยขนมปังโฮลวีท 2 แผ่น ทูน่าในน้ำแร่ ผักสดก็เลือกเอาตามใจชอบ ส่วนวิธีทำก็เอามาประกอบร่างกันให้เป็นเหมือนในรูป เพียงเท่านี้ก็ได้อาหารคลีน 1 อย่างที่ไม่ต้องปรุงรสเติมชาติให้จัด ก็อร่อยได้เหมือนกัน แถมดีต่อสุขภาพด้วย

2. แซนวิชไข่คน + ทูน่า

เมนูนี้นั้นออกจะง่ายแสนง่าย มีวัตถุดิบไม่กี่อย่างก็สามารถนำมาประกอบเป็นอาหารคลีนรสชาติดีๆ ได้เพิ่มอีก 1 อย่าง เป็นเมนูที่คล้ายกับเมนูแรก มีไข่ 1 ฟอง ตีลงในกระทะแล้วตีให้แตก คนๆๆ ให้เป็นลักษณะคล้ายกับ Omlet โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน จะให้ความรู้สึกผิวสัมผัสของไข่ด้านหน่อยๆ แต่ก็อร่อยเหมือนกัน ตามด้วยขนมปังโฮลวีท 2 แผ่น ปิดท้ายด้วยผักตามใจชอบ เสิร์ฟพร้อมกับเสาวรสสดๆ 1 ลูกเช่นกัน อะไรจะธรรมชาติขนาดนี้

3. ข้าวกล้องคลุกสับปะรดใส่อกไก่

เมนูนี้เพียงแค่มีไมโครเวฟก็สามารถทำได้ง่ายๆ มีส่วนผสมเป็นข้าวกล้อง สับปะรด เนื้ออกไก่ ผักต่างๆ ตามใจชอบ แล้วปิดท้ายด้วยมะนาว 1 ซีกเป็นการเพิ่มรสชาติความเปรี้ยวที่ตัดกับความมันของข้าว อกไก่ และความเปรี้ยวอมหวานของสับปะรดได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งอาหารคลีนที่มีรสชาติถูกปากอย่าบอกใครเชียว กินแล้วเจริญอาหารชัวร์ !

4. ข้าวกล้องไข่ทูน่า

บอกเลยว่าเมนูนี้เป็นอะไรที่คลีนมากๆ ประกอบด้วยไข่ ทูน่า เสิร์ฟพร้อมผักสดที่เราชอบ กินคู่กับข้าวไรซ์เบอรี่ร้อนๆ เพียงเท่านี้ก็อร่อยได้แบบคลีนๆ แล้ว

5. ก๋วยเตี๋ยวหมี่ข้าวกล้องต้มยำแห้ง

มาดูเมนูที่เป็นเส้น หรือเมนูก๋วยเตี๋ยวที่เราชื่นชอบกันบ้างดีกว่า บอกไว้ก่อนเลยว่าเมนูนี้อาจจะไม่คลีน 100% แต่รับรองได้ว่าแคลอรี่ไม่สูงเท่ากับก๋วยเตี๋ยวทั่วๆ ไปอย่างแน่นอน ส่วนผสมก็หาได้ไม่ยาก ประกอบไปด้วย เส้นหมี่ข้าวกล้อง ถั่วฝักยาว ผักลวกแล้วแต่ตามชอบ ลูกชิ้นอกไก่ หรืออาจใส่เป็นอกไก่รวนกับน้ำสต๊อกก็ได้ จากนั้นใส่เครื่องปรุงเล็กน้อยเพื่อให้เกิดรสชาติ คราวนี้ก็พร้อมที่จะอิ่มอร่อยไปกับเมนูอาหารคลีนเมนูนี้แล้ว
ที่า :http://www.sanook.com/women/51845/

15 เมนูอาหารท้องถิ่น' ที่คนส่วนใหญ่..ไม่รู้จัก

วันนี้ Sanook! Travel มีความภูมิใจเสนอกับ "15 อาหารท้องถิ่นในประเทศไทย" ในแต่ละจังหวัด ที่คนไทยอย่างเราๆ ก็ยังไม่เคยเห็น หรือไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งหาทานยากมาก และถ้าไม่ได้มาเทศกาลอาหารท้องถิ่นที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดขึ้น ก็คงจะไม่รู้จักต่อไป  

1. หอยเสียบจิ้มมะละกอ  (ประจวบคีรีขันธ์)
"หอยเสียบจิ้มมะละกอ" เป็นอาหารทานเล่นของชาวบ้านที่ตลาดหัวหินมาอย่างยาวนาน ลักษณะเป็นหอยชนิดต่างที่นำมาตากแห้ง เช่น หอยแมลงภู่ หอยหลอด หอยแครง ที่นำมาเสียบไม้ เอาไปปิ้งบนเตาถ่านให้ได้กลิ่นหอมๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเผ็ดๆ หวายๆ เคล้ากับถั่วตำแบบหยาย และมีมะละกอดิบซอยเป็นเส้น แยกมาต่างหาก เวลาจะทานก็นำเส้นมะละกอดิบมาใส่ในน้ำจิ้ม จากนั้นก็เอาหอยเสียบคลุกเคล้ากับน้ำจิ้ม 
2. ผัดหมี่ไทย-ญวน  (สระบุรี)
ผัดหมี่ไทยญวนเป็นอาหารท้องถิ่นของชาวจังหวัดสระบุรี มีรสหวาน มีเส้นสีแดงนุ่ม เนื่องจากใช้มะเขือเทศสุกผัดรวมกับเส้นหมี่ ทำให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผัดหมี่ไทยญวน ที่แตกต่างจากผัดหมี่ที่อื่นๆ ที่ใช้เป็นซอสสำเร็จรูปในการปรุง
3. เต้าหู้ดำ (ราชบุรี)
เต้าหู้ดำถือเป็นสินค้าระดับโอทอปของชาวจังหวัดราชบุรี เป็นการนำเต้าหู้คุณภาพดีนำมาต้มในน้ำพะโล้นานถึง 3 วัน จนได้รสชาติเข้มข้นออกมาเป็นสูตรเฉพาะตัวของที่นี่ตั้งแต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ส่วนใหญ่จะนำมาทานเปล่าๆ  หรือนำมาประกอบอาหารอื่นๆ เช่น ผัด ต้ม ทอด ก็สามารถเลือกดัดแปลงได้
4. ปลาคก (ปลาตะเพียนต้มเค็ม) ชลบุรี
ปลาคกเป็นอาหารประจำของชาวจังหวัดชลบุรี ซึ่งทำมาจากปลาตะเพียนกับน้ำต้มผักกาดดอง ตะไคร้ กระเทียม พริกแห้งและเกลือ ใส่ปลาไว้บนสุด เคี่ยวบนไฟอ่อนๆ รวมกันกับน้ำเป็ดพะโล้ สำหรับรับประทานกับข้าวต้มหรือข้าวสวย ซึ่งสามารถหาทานได้เฉพาะในพื้นที่เท่านั้น เช่น ตำบลบางปลาสร้อย เป็นต้น
5. ไก่กะเต็ด (นครราชสีมา) 
ไก่กะเต็ดเป็นของชาวโนนไทย เป็นการอบไก่ในหม้อที่พลิกกลับโดยการกะเต็ด (การกะเต็ดหมายถึงการสะบัด ฝัดข้าว) การนำไก่สดทั้งตัว มาคลุกเคล้ากับเครื่องเทศ แล้วนำไปใส่หม้อตั้งไฟการกะเต็ดแล้วพลิกไปพลิกมา จนกว่าไก่จะสุก ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
6. กระเฉดชะลูดน้ำ  (ปราจีนบุรี)
กระเฉดชะลูดน้ำ เป็นผักขึ้นชื่อของอำเภอกบินทร์บุรี มีการเพาะปลูกที่แตกต่างจากผักกระเฉดทั่วไป คือ เพาะปลูกในแหล่งที่มีน้ำไหลทำให้ผักกระเฉดชะลูดที่จะโผล่พ้นน้ำและไม่มีนมสีขาว จึงเป็นที่มาของชื่อ กระเฉดชะลูดน้ำ อีกลักษณะเด่นคือ เส้นยาว รอบ กลิ่นไม่ฉุน นิยมนำมาประกอบอาหารเช่น ผัด ยำ เป็นต้น
7. นาซิดาแฆ  (ปัตตานี)
นาซิดาแฆ สุดยอดอหารเช้าที่ขึ้นชื่อของชาวไทยมุสลิม มักเรียกความสนใจจากนักชิมอาหารได้เสมอ "นาซิดาแฆ" เป็นอาหารคาวชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายข้าวมันของไทย ใช้ข้าวสามชนิดคือข้าวเหนียว ข้าวเจ้า และข้าวซ้อมมือ นิยมทำเลี้ยงรับรองแขก สำหรับวิธีการกินมันทานคู่กับแกงกะหรี่ แกงไก่ แกงเนื้อ และแกงปลาโอสดๆ แกงไข่ เป็นแกงกะทิที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศกลิ่นหอม ชวนน่ารับประทาน
8. ข้าวแรมฟืน (เชียงราย)
ข้าวแรมฟืนเป็นอาหารชนิดหนึ่งมีรสเปรี้ยวเผ้ดหวาน เป็นได้ทั้งอาหารว่างและอาหารหลักทั้งคาวและหวาน แต่ทุกอย่างเป็นมังสวิรัติเป็นอาหารเจซึ่งเป็นที่นิยมของชาวไทยใหญ่ ไทลื้อและไทเขิน นำเข้ามาจากสิบสองปันนาประเทศจีน และผ่านมาทางพม่าอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย 
ตำนานเรื่องเล่า คำว่า "ข้าวแรมฟืน" คาดการณ์ว่าเพี้ยนมาจากข้าวแรมคืน ซึ่งชื่อนี้มาจากวิธีการทำ เนื่องจากข้าวแรมฟืนขาวทำมาจากการโม่ข้าวเจ้าแข็งทำแป้งแล้วนำน้ำแป้งที่ตกตะกอนมาเคี่ยวกับปูนขาวจนสุกจากนั้นเทใส่ภาชนะใดก็ได้ทิ้งไว้ 1 คืน วันรุ่งขึ้นแป้งจะแข็งตัว
9. ขนมจีนน้ำย้อย (แพร่)
มีแหล่งกำเนิดมาจาก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ โดยเป็นการนำแป้งขนมจีนที่สดดๆ บีบลงหม้อต้มน้ำร้อนๆ พอสุกก็ตักขึ้นสะเด็ดน้ำคนเมืองเรียกว่าน้ำย้อย นำมาคลุกน้ำพริกที่ปรุงรสครบเครื่อง รสชาติกลมกล่อม แล้วเหยาะน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วทานได้เลย แห้งๆแบบ ผัดไท โดยจะมีผักเคียงตามชอบเช่น ถั่วฝักยาว ถั่วงอกสดหรือลวก และเพิ่มไข่ต้มยางมะตูม 
10. ข้าวเปิ๊ป (สุโขทัย)
ข้าวเปิ๊ป เป็นอาหารพื้นบ้านของชุมชนนาต้นจั่น จ.สุโขทัย วิธีการทำข้าวเปิ๊ปคล้ายๆกับการทำข้าวเกรียบปากหม้อ เมื่อแผ่นแป้งบนปากหม้อสุกได้ที่แล้ว ก็นำผักสดพร้อมวุ้นเส้นวางบนแผ่นแป้ง แล้วค่อยๆ พับแป้งตักใส่ชาม ตักราดด้วยน้ำซุปกระดูกหมู เติมกากหมูเจียว ต้นหอมและผักชี แล้วปิดท้ายด้วยไข่าวไอน้ำวางไว้ด้านบนสุด
11.  แกงไก่ใส่กล้วยพระ  (ตราด)
เมนูนำแกงไก่ที่นำกล้วยไข่มาทำเป็นอาหารโดยเลือกผลห่ามมาทำแกง ทำให้มีรสชาติอร่อยหอมหวาน และเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
12. ไก่กลั๋น (อุบลราชธานี)  
ไก่กลั๋นหรือไก่ใต้น้ำ เป็นอาหารทั่วไปในภาคอีสานที่นำไก่มาผ่านการนึ่ง แล้วใส่เครื่องเทศสารพัด โดยนำไก่ใส่หม้อนึ่ง แล้วนำหม้อที่มีก้นขนาดเท่าปากหม้อนึ่งใส่น้ำเกือบครึ่ง นำไปตั้งไว้บนปากหม้อนึ่ง หมั่นตักน้ำออกจากหม้ออย่าให้ร้อนเกินไปแล้วเติมน้ำใหม่ทำประมาณสามครั้ง
13. วุ้นหมาน้อย (ตราด)
หมาน้อยเป็นพืชชนิดหนึ่ง คล้ายใบย่านาง วิธทำนำใบหมาน้อยมาขยี้ จนในหมาน้อยเหลือแต่เส้นใบ นำไปกรองผสมเนื้อปลาป่นและเครื่องปรุงลาบ นำไปพักไว้สักครู่ น้ำหมาน้อยจะเริ่มจับตัวเหมือนเยลลี่
14. ปลาช่อนกระบอกเผา (ขอนแก่น)
ปลาช่อนกระบอกเผา เป็นการนำปลาช่อนและสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด บรรจุในกระบอกไม้ไผ่ เผาให้สุก รับประทานกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด
15. อังแก๊บบอบ (สุรินทร์)
เป็นอาหารประเภทย่าง เป็นอาหารของชาวเขมรและชาวกูย นิยมรับประทานเพราะได้รสเผ็ดร้อนจากพริก กบที่นำมาทำกบยัดไส้ต้องเป็นกบนาหรือกบธรรมชาติ หาซื้อได้ในเขตอำเภอเมือง อำเภอปราสาท อำเภอกาบเชิง และตลาดเขียว อบจ สุรินทร์ 
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ที่มา : http://travel.sanook.com/1399573/